วันอังคาร, มีนาคม 11, 2025

ติดต่อลงโฆษณา โทร : 065 334 8667 (คุณจิรภัทร แสงจันทร์)

หน้าแรกวิจัยในชั้นเรียนแจกฟรี คลังข้อมูลวิทยานิพนธ์ บทความ งานวิจัย จากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ เพื่อการศึกษาและอ้างอิง สำหรับนักศึกษา ผู้ทำวิจัย

แจกฟรี คลังข้อมูลวิทยานิพนธ์ บทความ งานวิจัย จากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ เพื่อการศึกษาและอ้างอิง สำหรับนักศึกษา ผู้ทำวิจัย

สวัสดีครับ วันนี้ปันสื่อฟรี ขอนำเสนอ คลังข้อมูลวิทยานิพนธ์ บทความ งานวิจัย จากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ เพื่อการศึกษาและอ้างอิง สำหรับนักศึกษา ผู้ทำวิจัย

ตัวอย่างคลังข้อมูลวิทยานิพนธ์

ตัวอย่างคลังข้อมูลวิทยานิพนธ์
ตัวอย่างคลังข้อมูลวิทยานิพนธ์

คลังปัญญาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ฐานข้อมูล SWU Discovery มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

ฐานข้อมูลวิทยานิพนธ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

คลังปัญญามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี

ฐานข้อมูล Dspace มหาวิทยาลัยศิลปากร

ฐานข้อมูลงานวิจัย มหาวิทยาลัยนเรศวร

คลังปัญญามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

ฐานข้อมูลวิทยานิพนธ์ และงานวิจัย มหาวิทยาลัยรามคำแหง

ฐานข้อมูลวิทยานิพนธ์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ อิเล็กทรอนิกส์

ห้องสมุดมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช

รวมวิทยานิพนธ์ บทความ งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยต่างๆ ในประเทศไทย

Thai Thesis & Research Databases

ขั้นตอนในการทำวิทยานิพนธ์

ในการที่จะเขียนวิทยานิพนธ์ขึ้นมาเล่มหนึ่ง จะต้องมีส่วนประกอบสามสิ่ง ได้แก่ ส่วนนำ ส่วนเนื้อความ และส่วนเนื้อความ โดยในส่วนนำคือหน้าปกที่จะประกอบไปด้วยชื่อหัวข้อและอาจารย์ที่ปรึกษาของผู้เขียน จากนั้นจะเป็นหน้าที่การรับรองจากกรรมการที่ตรวจสอบความถูกต้องของวิทยานิพนธ์ ตามด้วยบทคัดย่อ และสารบัญ ซึ่งจะเป็นตัวที่ช่วยโครงสร้างต่างๆ ภายในว่ามีหัวข้ออะไรบ้าง

ถัดมาเป็น “เนื้อความ” มันประกอบไปด้วย บทนำ ตัวเรื่อง และบทสรุป ในส่วนของบทนำจะเป็นส่วนที่ผู้แต่งอธบายว่าเนื้อหาภายในนั้นเกี่ยวข้องกับอะไร เป็นสาเหตุที่เขียนและทำการวิจัย จนถึงสรุปสิ่งที่คาดหวังว่าจะได้จากการศึกษาและวิจัยในครั้งนี้ เพื่อให้ผู้อ่านทราบจึงจุดประสงค์ในการทำวิจัยได้ง่ายขึ้น ถัดมาเป็น “ตัวเรื่อง” จะเป็นส่วนที่ใช้ในการอธิบายขั้นตอนในการวิจัยของเรา ว่าจะดำเนินแผนการอย่างไร และผลการวิจัยเป็นอย่างไร รวมถึงชี้แจ้งอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ที่นำมาใช้ประกอบการวิจัย

สุดท้ายคือ “บทสรุป” ผู้แต่งจะต้องเขียนสรุปผลการวิจัยที่เกิดขึ้น และอธิบายถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากการวิจัยในครั้งนี้ รวมถึงให้คำติชมผลงานวิจัยของตัวเองว่าเป็นอย่างไร สุดท้ายแล้วจะต้องใส่เอกสารอ้างอิงที่นำมาใช้เป็นข้อมูลเพิ่มเติมในเอกสารของเรา เช่นหนังสือ หรือ บุคคลที่ได้นำข้อมูลบางส่วนมาใช้เป็นส่วนประกอบในงานวิจัย เพื่อให้คนที่สนใจจะศึกษาต่อสามารถเข้าถึงแหล่งอ้างอิงเหล่านี้ได้ง่ายขึ้น ในหน้าสุดท้ายมักจะเขียนประวัติของผู้แต่งเอาไว้ เพื่อแสดงถึงคุณสมบัติและความเป็นมาของตัวผู้แต่ง เช่น ชื่อ นาม สกุล วันเดือนปีเกิด สถานที่ศึกษา วุฒการศึกษา ผลงานที่ทำ รางวัลที่เคยได้รับ ประสบการณ์ที่มี หรือ แม้แต่ทุนการศึกษา ทั้งหมดนี้ล้วนสามารถนำไปใส่ในหน้าประวัติของเราได้

วิทยานิพนธ์คืออะไร

ก่อนที่จะเริ่มลงลึกไปยังส่วนอื่นๆของการทำวิทยานิพนธ์ วันนี้ Finestdissertation จะมาพูดถึงความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับงานวิทยานิพนธ์ นั่นก็คือความหมายของคำว่าวิทยานิพนธ์ (thesis or dissertation – อ่านบทความ ความแตกต่างระหว่าง thesis และ dissertation) โดยทั่วๆไป งานวิทยานิพนธ์หรืองานวิจัยระดับอุดมศึกษา เป็นงานเขียนวิชาการที่นักศึกษาทุกคนโดยเฉพาะในระดับปริญญาโทและเอกต้องจัดทำขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการจบการศึกษาและรับประกาศนียบัตร เพื่อเป็นเกียรติคุณและ เป็นไปเบิกทางในสายอาชีพต่างๆ ที่ตนเองสนใจในอนาคต แต่ในอีกมุมหนึ่ง วิทยานิพนธ์เป็นหลักฐานส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในการยืนยันว่านักศึกษาท่านนั้นๆได้มีความเข้าใจในบทเรียน เนื้อหาและทฤษฎีต่างๆที่ได้ทำการศึกษาในสาขาวิชานั้นๆที่ได้ลงทะเบียนเรียน การทำวิทยานิพนธ์เปรียบเสมือนงานวิจัยที่ น.ศ. ต้องทำการค้นคว้าหาข้อมูลในเรื่องที่ตัวเองสนใจ เพื่อเป็นการหาคำตอบของคำถามในงานวิจัยโดยใช้หลักเหตุและผล และข้อมูลในการสนับสนุนหรือยืนยันทฤษฎีที่ตนเองได้กล่าวสรุปในงานวิจัย โดยหลักๆ  นศ. ที่จัดทำวิทยานิพนธ์จะต้องทำการค้นคว้าหาข้อมูลเดิม หรือที่เรียกว่าทบทวนวรรณกรรมเก่าๆ (review of literature) เกี่ยวกับเรื่องที่ตนเองสนใจที่ได้มีการจัดทำไว้ในวิทยานิพนธ์ของนักวิจัยท่านอื่นๆแล้ว เพื่อเป็นการศึกษาเบื้องหลังของเรื่องที่สนใจ และตั้งสมมติฐานที่น่าจะเกิดกับงานวิจัย

          ความแม่นยำและถูกต้องของการหาคำตอบให้กับสมมติฐานที่ตั้งไว้นั้น หลักๆจะขึ้นอยู่กับการเลือกเครื่องมือและวิธีวิจัยของผู้จัดทำวิทยานิพนธ์เล่มนั้นๆ ผลลัพธ์ของการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้ จะออกมาในรูปแบบการยืนยันหรือขัดแย้งกับสมมติฐาน หรือทฤษฎีที่นักวิจัยท่านอื่นได้เคยกล่าวไว้แล้ว ทั้งนี้และทั้งนั้นความสอดคล้องหรือขัดแย้งของทฤษฎีในการทำวิทยานิพนธ์จะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายส่วน อาทิสถานที่ทำวิจัย กลุ่มตัวอย่าง วิธีการวิจัย และพื้นฐานความรู้ของผู้จัดทำวิทยานิพนธ์ (โดยเฉพาะในกรณีงานวิจัยเชิงคุณภาพ) เช่นงานวิทยานิพนธ์ในเรื่องปัจจัยของความสำเร็จทางการตลาดของการขายโทรศัพท์ มือถือ iPhone ในยุโรป ก็อาจจะเป็นคนละปัจจัยกับที่ประเทศไทยเนื่องจากความแตกต่างของพฤติกรรมผู้บริโภคและทัศนคติของกลุ่มคนนั้นๆ อย่างๆไรก็ตามผู้จัดทำวิทยานิพนธ์ ควรจะคำนึงถึงบทสรุปที่ให้ความรู้ใหม่ๆข้อคิดและคำแนะนำที่มีประโยชน์ต่อตลาดนั้นๆ รวมทั้งควรจะมีคำแนะนำที่มีคุณค่าสำหรับนักวิจัยท่านอื่นๆที่สนใจจะศึกษางานวิทยานิพนธ์เพื่อนำไปต่อยอด เพื่อเป็นการเพิ่มประโยชน์และความรู้ให้แก่วงการวิชาการและบุคคลทั่วไปต่อไป

          สรุปได้ว่างานวิทยานิพนธ์ก็คืองานวิจัยทางวิชาการที่มีการไตร่ตรองและวางแผนงานวิจัยอย่างมีรูปแบบ โดยผู้จัดทำวิทยานิพนธ์จะทำการรวบรวมข้อมูลและทฤษฎีเก่าๆนำมาวิเคราะห์ โดยใช้หลักเหตุและผล และข้อมูลที่น่าเชื่อถือมาสนับสนุนความรู้ใหม่ของนักวิจัยอย่างมีเทคนิคและทักษะของการวิจัยเชิงวิทยาศาสตร์ – Finestdissertation ยึดความซื่อสัตย์และรู้จริงเป็นคติในการรับทำวิทยานิพนธ์เป็นหลัก เพื่อรักษาชื่อเสียงในการให้บริการรับทำวิทยานิพนธ์ของเรา

บมความล่าสุด

ทิ้งคำตอบไว้

Please rate*
กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

- Advertisment -
Google search engine

ยอดนิยม