สวัสดีคุณครูทุกท่านครับ วันนี้ปันสื่อฟรี ขอนำเสนอ แบบทดสอบความรู้ความเข้าใจ เรื่อง ทักษะ 11Q สำหรับเด็กและเยาวชน ประจำปี 2566 สู่การเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 มีเฉลยแจก รับเกียรติบัตรทันที
คำชี้แจงเรื่อง ทักษะ 11Q
![คำชี้แจงเรื่อง ทักษะ11Q](https://xn--q3cdnq7asz1bo4o.com/wp-content/uploads/2023/01/ภาพถ่ายหน้าจอ-2566-01-02-เวลา-09.16.16-1024x233.png)
1. ระบบเต็มหรือจำกัดจำนวนต่อวัน แนะนำให้ทำช่วงเช้า
2. ใส่อีเมล์ผิดต้องใช้ gmail เท่านั้น
3. คะแนนไม่ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด
4. ต้องใช้เวลาในการตอบกลับอีเมล์ อาจนานถึง 1วัน
5. อาจอยู่ในเมล์ขยะ
6. บางเพจจำกัด gmail และให้ทำได้เพียงครั้งเดียว
7. บางเกียรติบัตรไม่ส่งทางอีเมล์ต้องดาวโหลดจากเว็บไซต์
ตัวอย่างเกียรติบัตรเรื่อง ทักษะ11Q
![ตัวอย่างเกียรติบัตรเรื่อง ทักษะ11Q](https://xn--q3cdnq7asz1bo4o.com/wp-content/uploads/2023/01/321022075_881076903037238_3162910060686610497_n-1024x723.png)
การเรียนรู้ทักษะชีวิตเด็กและเยาวชนในศตวรรษที่ 21
1. รู้จักตนเอง
เข้าใจธรรมชาติของตนเอง รู้ความชอบ ความถนัด ดูแลตนเองให้แข็งแรง มีสุขภาพที่ดี
– NQ (Natural Quotient) ความฉลาดในการเข้าใจชีวิต
– HQ (Health Quotient) ความฉลาดในการดูแลสุขภาพ
2. รู้จักคิด
เชื่อมโยงความรู้ที่มีเข้ากับความรู้ใหม่ สร้างสรรค์ผลงาน สร้างพลัง ผ่านพ้นทุกอุปสรรคไปได้
– CQ (Creative Quotient) ความฉลาดในการริเริ่มสร้างสรรค์
– PQ (Play Quotient) ความฉลาดในการเล่น
– AQ (Adversity Quotient) ความฉลาดในการแก้ไขปัญหา
– TQ (Thinking Quotient) ความฉลาดในการคิดวิเคราะห์ ประยุกต์
– OQ (Optimist Quotient) ความฉลาดมองโลกในแง่ดี
3. รู้จักใช้ชีวิต
เป็นคนเก่ง จิตใจดี มีความสุข ปรับตัวและอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้
– IQ (Intelligence Quotient) ความฉลาดทางสติปัญญา
– EQ (Emotional Quotient) ความฉลาดทางอารมณ์
– MQ (Moral Quotient) ความฉลาดทางคุณธรรม
– SQ (Social Quotient) ความฉลาดทางสังคม
ซึ่งการส่งเสริมให้เด็กได้รับครบทั้ง 3 กลุ่ม หรือเกิดความฉลาดทั้ง 11 ด้านนั้น ไม่ได้ผูกขาดเพียงวิธีใดวิธีหนึ่ง หรือแต่ละวิธีก็ไม่ได้แบ่งตายตัวว่าได้ความฉลาดด้านใดบ้าง แต่เด็กจะได้รับอย่างผสมผสานกัน ผ่านการเลี้ยงดูที่เหมาะสมดังนี้
• ส่งเสริมพัฒนาการตามวัย คอยสังเกตและประเมินอย่างใกล้ชิด หากช้าด้านใดต้องรีบกระตุ้น คล่องแคล่วด้านใดต้องรีบส่งเสริม
• ให้เด็กได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน ในบรรยากาศการกินที่ไม่เคร่งเครียดจากการโดนบังคับ โดยประยุกต์อาหารจานโปรดหรือชนิดอาหารที่เด็กชอบ ให้มีสารอาหารครบหมู่
• ชวนเด็กออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เซลล์สมองแข็งแรง มีพลังในการคิด สร้างสมาธิ ความจำ ผ่อนคลายความเครียด เกิดความสดชื่นกระปรี้กระเปร่า และกระตือรือร้นในการเรียนรู้
• ให้เด็กนอนอย่างมีประสิทธิภาพ เข้านอนเป็นเวลา ไม่ให้มีเรื่องรบกวนก่อนนอน สร้างบรรยากาศที่อบอุ่นใจเหมาะสมในการนอน
• ให้เล่นดนตรี สร้างพัฒนาการทางสติปัญญา เกิดการคิดคำนวณ มีความสามารถในการรับรู้และความสามารถทางภาษา เพิ่มทักษะประสานงานของส่วนต่าง ๆ ในร่างกาย
• ส่งเสริมการอ่าน พัฒนาสติปัญญา ภาษา เกิดมุมมองการใช้ชีวิต ให้เด็กมีคลังวัตถุดิบมากมายที่จะนำไปต่อยอดกับเรื่องอื่น ๆ หรือนำไปสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ในชีวิต
• ปล่อยให้เด็กได้เล่นตามวัย ให้ความสำคัญกับการเล่นของเด็ก เพราะพวกเขาได้เรียนรู้และฝึกทักษะต่าง ๆ มากมายจากการเล่นเสมอ
• ชวนพูดคุยให้เขาได้คิดจากเรื่องทั่วไป เช่น ลองบอกให้คิดต่อว่าถ้ารถยนต์ไม่ได้มีหน้าตาอย่างที่เราเห็น จะมีหน้าตาแบบไหน หรือลองบอกวิธีใช้งานของเครื่องมือสักชิ้นในแบบที่แตกต่างออกไปจากที่เคยใช้
• พูดคุยอย่างใกล้ชิดเมื่อเด็กเจอเรื่องราวด้านลบ ค่อย ๆ ปลูกฝังเรื่องการยอมรับความผิดหวัง การเปลี่ยนแปลง และลองมองเรื่องเดียวกันให้ครบทุกด้าน หรือลองมองในมุมของผู้อื่นว่าเขารู้สึกอย่างไร และฝึกการให้อภัยในความไม่สมบูรณ์แบบของทั้งตนเองและผู้อื่น
• ฝึกให้เด็กพูดความรู้สึกของตนเองออกมาให้ได้ว่ารู้สึกอย่างไร ต้องการทำสิ่งใดเมื่อรู้สึกแบบนั้น และสิ่งที่ต้องการทำเป็นสิ่งที่ดีหรือไม่ ให้เด็กคิดตามและปลดล็อกความรู้สึกของตนเองไปทีละเปราะ
แนวทางต่าง ๆ เหล่านี้ ต้องอาศัยเวลาและความพร้อมของทั้งพ่อแม่และตัวเด็กเอง ที่สำคัญคือต้องไม่ตั้งตารอว่าลูกได้ความฉลาดด้านใดไปแล้วบ้าง เพราะความฉลาดแต่ละด้านจะไม่ปรากฏเด่นชัดแบบเดี่ยว ๆ แต่ในเด็กหนึ่งคนจะแสดงความฉลาดหลากหลายด้านที่ทำงานร่วมกันเป็นทีมออกมาในสถานการณ์ต่าง ๆ ซึ่งพ่อแม่จะได้สัมผัสและเห็นผลเด่นชัดด้วยตนเอง